คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ จีน ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของโลกถึง 1.3 พันล้านคน กับการก้าวสู่ตำแหน่งการเป็นมหาอำนาจในด้านต่างๆ ที่ภายหลังจากการเปิดประเทศ ก็ดูเหมือนว่าจะมีผู้มอบตำแหน่งนี้ให้อย่างมากมาย

มหาอำนาจทางด้าน ไอซีที เป็นอีกบัลลังก์หนึ่งที่จีนกำลังก้าวเทียบชั้นกับประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยการขยายตัวของอุตสาหกรรมไอซีทีกว่า 30% ในปี 2546 จากตลาดรวมที่มีมูลค่าสูงถึง 2.3 พันล้านยูโร

เตรียมก้าวสู่มหาอำนาจไอซีที

ตัวเลขการขยายตัว 30% ในจีนถือว่าสูงกว่าการขยายตัวของไอซีทีในทวีปยุโรป โดยเฉพาะในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมด้านนี้เพียง 2-6% เท่านั้น นักวิเคราะห์ทั่วโลกหลายสำนัก จึงไม่ลังเลที่จะฟันธงว่าประเทศ จีน เป็นประเทศที่ก้าวขึ้นสู่ระดับผู้นำไอซีทีได้ไม่ยาก และที่ผ่านมาไอซีทีในตลาดจีนก็มีหนทางที่สดใส จากปัจจัยในประเทศหลายอย่าง เป็นต้นว่า เศรษฐกิจของจีนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวมากถึง 20% และ ไอซีที คืออุตสาหกรรมสำคัญที่สุด ที่ดันให้ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว

เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่า ตอนนี้จีนมีความต้องการด้านเซมิคอนดักเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โทรทัศน์สี คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งขณะนี้ จีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนผู้ใช้ถึง 300 ล้านคน โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2546 มีการซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นจำนวนมากถึง 33 ล้านเครื่องโดยผู้ใช้เป็นครั้งแรก และคาดว่าในปี 2551 จะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านคน นั่นยังไม่นับ การที่รัฐบาลจีนได้เข้ามาสนับสนุนไอซีที โดยเขียนแผนพัฒนาภายใน 5 ปี และอนุมัติเงินลงทุนสำหรับอุตสาหกรรมนี้เป็นเงินถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

เลือก จีน จัดงานซีบิท เอเชีย

เหตุผลดังกล่าวข้างต้น เพียงพอที่จะทำให้ งานไอทีระดับโลก อย่าง ซีบิท ไม่ลังเลที่จะจัดงานในจีนแผ่นดินใหญ่ในปีนี้ ภายใต้ชื่องาน ซีบิท เอเชีย 2004 ในระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2547 ที่ นครเซี่ยงไฮ้ โดยนายมิชาเอล ฮอฟเปอร์ หัวหน้าผู้จัดงานแสดงสินค้า ซีบิท เอเชีย บอกว่า ก่อนหน้านี้ซีบิท เอเชีย มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกันยายน แต่กลไกอุตสาหกรรมแสดงความต้องการให้จัดเร็วขึ้น ที่ผ่ามมา ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติเมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ได้พัฒนาแนวคิดการจัดงานแสดงสินค้าขึ้นในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นยุทธศาสตร์การตลาดทั่วโลก ที่จะจัดขึ้นในทุกทวีป ทวีปละ 1 ประเทศ รวมทั้ง ปัจจุบันบริษัทจำนวนมาก ทั้งบริษัทขนาดเล็ก และกลาง หรือบริษัทข้ามชาติ กำลังสร้างฐานผลิตในภูมิภาคเอเชีย พร้อมกับผลประโยชน์ที่จะได้รับ จากปริมาณความต้องการอันมหาศาลในตลาด ด้วยการขยายตัวต่อปีในภูมิภาคสูงถึง 8% ที่สำคัญจีนกำลังกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมไอซีทีจะเป็นกลไกลสำคัญนำไปสู่การพัฒนา โดยคาดว่าจะมีการขยายตัวถึง 17% ในปีนี้

ฟันธงปี 2558 ก้าวขึ้นเบอร์ 1 ไอซีทีโลก

เขาบอกว่า การมุ่งสู่ตะวันออกครั้งนี้ ถือเป็นสูตรความสำเร็จสำหรับประเทศตะวันตก ด้วยตลาดที่กำลังเจริญเติบโต ยอดขายที่สร้างสถิติ อัตราการขยายตัวที่สูง สำหรับงานซีบิท เอเชีย ที่เซี่ยงไฮ้ ในปีนี้จะมีผู้นำตลาดจำนวนมากเข้าร่วมงาน รวมทั้งนักธุรกิจ นักการเมืองจากกรุงปักกิ่ง และจากในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพื้นที่โดยรอบทั้งหมด คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้าจำนวน 550 รายใช้พื้นที่แสดงสินค้า 35,000 ตารางเมตร และมีผู้เข้าร่วมชมงานจำนวน 60,000 คน จากทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์ทั่วโลก จึงไม่ลังเลที่จะเทคะแนนว่า จีนจะกลายเป็นตลาดไอซีทีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 3 ภายในปี 2549 และครองตำแหน่งเจ้าตลาด ภายในปี 2558 ได้อย่างไม่ยากเย็น และซีบิท เอเชีย 2004 จะพิสูจน์ให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างมั่นคงในภาคอุตสาหกรรมนี้ของจีน ซึ่งการย้ายการพัฒนาซอฟต์แวร์มายังจีนกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายบริษัท

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 22 มกราคม 2547