ระบุมาตรฐานเปิดลดค่าใช้จ่ายเหลือ 1 ใน 10
ฮันโนเวอร์ - นักวิเคราะห์เก็งอุตสาหกรรมเทคโนโลยีฟื้นตัวอย่างเร็วปีหน้า พร้อมชี้แนวโน้มผู้บริโภคเน้นสินค้าราคาถูก ส่งผลตัวเลขค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรมไม่กระเตื้อง ด้านอินเทลรับกระแสสั่งเปิดตัวชิพไร้สายเซนทริโน หวังกระตุ้นตลาดไวไฟ ขณะซัมซุงคลอดมือถือจอสีใหม่ 2 รุ่น

สำนักข่าวซีเน็ต รายงานว่า ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจำนวนมาก ได้มารวมตัวกันที่เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ก่อนวันเปิดตัวงานซีบิต (CeBIT) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12 มีนาคมนี้เพียงไม่กี่วัน เพื่อถกหากลยุทธ์ที่จะช่วยให้ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง

จากงานประชุมดังกล่าว นักวิเคราะห์หลายรายได้พากันคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจะฟื้นตัวขึ้นอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า โดยได้รับแรงผลักดันจากฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ รวมถึงบริการใหม่ๆ ที่พัฒนาให้มีราคาถูกลง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องหันมารัดเข็มขัดกันมากขึ้น ขณะที่ในปีนี้ อัตราการเติบโตจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่ยังคงตั้งความหวังว่าอุปกรณ์รูปแบบใหม่ๆ จะช่วยกระตุ้นกระแสบริโภคขึ้นมาได้

นายจอร์จ โคโลนี่ หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัทวิจัยฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช กล่าวว่า เทคโนโลยีใหม่ซึ่งพัฒนาขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะช่วยเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและพักผ่อนของผู้บริโภคได้ด้วยราคาที่ต่ำกว่าเทคโนโลยีในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ขนาดเล็ก ซึ่งมีราคาเพียงไม่กี่เซนต์ ซึ่งจะช่วยให้อุปกรณ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงกระป๋องโค้กเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ และทำให้ผู้ใช้สามารถหาตำแหน่งของสินค้าได้เพื่อป้องกันการโจรกรรม "ภายในช่วง 6 เดือนหลัง เราจะได้เห็นป้ายราคาที่ใช้ระบบบ่งชี้ความถี่วิทยุ (radio frequency identification-RFID)" นายเจมส์ ฮอลล์ หัวหน้าแผนกวิจัยเทคโนโลยี บริษัทที่ปรึกษาแอคเซนเจอร์กล่าว พร้อมเผยว่า ยักษ์ใหญ่มือถือโนเกียเตรียมบรรจุอุปกรณ์ดังกล่าวลงในโทรศัพท์ของตนแล้ว ความเคลื่อนไหวอื่นๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านมาตรฐานคอมพิวเตอร์ อาทิ เอ็กซ์เอ็มแอล, จาวา และลินิกซ์ ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างซอฟต์แวร์ต่างระบบได้ "มาตรฐานเปิดเหล่านี้ช่วยให้ระบบต่างๆ สามารถปฏิบัติการร่วมกันได้ โดยอาศัยต้นทุนเพียง 1 ใน 10 ของเทคโนโลยีในปัจจุบัน" นายโคโลนี่ กล่าว

ความสามารถในการลดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างมหาศาลเช่นนี้ ช่วยให้บริษัทต่างๆ ประหยัดงบประมาณด้านไอทีลงมาก แต่ก็หมายความว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ลดน้อยลง แม้ว่าการเปิดตัวของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะช่วยพยุงไม่ให้ยอดขายโดยรวมต่ำลงมากนัก "อุตสาหกรรมนี้จะฟื้นตัวขึ้น จะมีการใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้นแน่นอน แต่จะเป็นกลุ่มเทคโนโลยีราคาต่ำ ทำให้ค่าใช้จ่ายในภาคไอทีไม่จำเป็นต้องฟื้นตัวเสมอไป" นายโคโลนี่ กล่าว งานซีบิตในปีนี้ยังเตรียมพื้นที่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับสาธิตระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง หรือไวไฟ (Wi-Fi) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเห็นว่าเมืองที่ใช้เครือข่ายไร้สายทั้งหมดจะสามารถทำงานได้อย่างไร

ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นว่า เครือข่ายไร้สายไวไฟจะถูกจับตามองมากที่สุดในอาทิตย์นี้ โดยเฉพาะเมื่อผู้ผลิตชิพอันดับหนึ่ง อินเทล คอร์ป.ประกาศเปิดตัว "เซนทริโน" ชิพไร้สายของตนอย่างเป็นทางการแล้ว เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้คอมพิวเตอร์สมุดพกที่จะวางตลาดในช่วงปลายปี สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องอาศัยสายเคเบิล "ไวไฟจะเป็นตัวเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยมีจุดเด่น คือ มีราคาถูก, ดัดแปลงได้ง่าย และช่วยเชื่อมต่อเครือข่ายบรอดแบนด์ในท้องถิ่น" นายโคโลนี่ กล่าว พร้อมย้ำว่า เทคโนโลยีราคาถูกจะได้รับความนิยมมากกว่าอุปกรณ์ระดับบน อาทิ โทรศัพท์ระบบ 3จี ซึ่งทางฟอร์เรสเตอร์ทำนายว่าจะยังไม่สามารถทำกำไรได้ในยุโรปก่อนปี 2557

แต่ข้อวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญก็ไม่สามารถยับยั้งผู้ผลิตบางรายได้ ก่อนหน้างานซีบิตเพียง 2 วัน บริษัท ซีเมนส์ เอจี ผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 4 ของโลก ได้ประกาศเปิดตัวโทรศัพท์จอสีใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ "เอสแอล55" (SL55) และ "เอ็ม55" (M55) ซึ่งรองรับเทคโนโลยีมัลติมีเดียได้ เพื่อสำหรับเจาะตลาดผู้บริโภคระดับบนโดยเฉพาะ  โทรศัพท์รุ่นเอ็ม55 จะเน้นรูปทรงปราดเปรียวสไตล์นักกีฬา และบรรจุซอฟต์แวร์สำหรับแต่งไฟล์เสียงไว้ด้วย โดยซีเมนส์เตรียมวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะที่รุ่นเอสแอล55 ซึ่งเตรียมเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับสูง มือถือทั้งสองรุ่นสามารถใช้กับกล้องดิจิทัลได้ และจะวางขายในแถบทวีปยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา และเอเชีย แปซิฟิก

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 มีนาคม 2546