ไอดีซีเผยผลวิจัยตลาดไอทีปีนี้'โน้ตบุ๊ก'โต 70% พีซีหดตัว
'ไอดีซี' เผยผลสำรวจตลาดไอทีปี'45 มูลค่าตลาดรวม 7.8 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาเพียง
7.15% ตลาดซอฟต์แวร์พุ่งกระฉูดเกือบ 40% จับตาตลาดโน้ตบุ๊กมาแรงสุดๆ โตกว่า 70%
คาดปีนี้ตลาดรวมทะลุ 1.2 แสนเครื่อง ขณะที่พีซีตั้งโต๊ะส่งสัญญาณถดถอย
นางสาววารุณี ตรีบำรุงศักดิ์
นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโส บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ไอดีซี) กล่าวถึงผลสำรวจตลาดไอทีในประเทศไทยว่า
ในช่วงปี 2544-2549 ตลาดจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 16.5% โดยในส่วนของฮาร์ดแวร์มีการเติบโตเพียง 8.3% ขณะที่ซอฟต์แวร์มีการเติบโตถึง
37.6% และบริการ 22.6% สาเหตุที่ตลาดซอฟต์แวร์มีการเติบโตสูง
เนื่องจากมีการรณรงค์และสนับสนุนการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับราคาซอฟต์แวร์มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมูลค่าตลาดรวมไอทีในปีนี้จะมีมูลค่า 78,106.5 ล้านบาท (หรือ 1,735.7
ล้านเหรียญสหรัฐ) เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 7.15% โดยเป็นสัดส่วนของตลาดฮาร์ดแวร์ 74% ซอฟต์แวร์ 15% และบริการ 11% โดยเมื่อปี 2544 ตลาดไอทีมีมูลค่า 72,891 ล้านบาท (1,619.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นมูลค่าของฮาร์ด แวร์ 71% ซอฟต์แวร์ 17% และบริการ 12%
นางสาววารุณีกล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจไอทีมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างมากก็คือ
ธุรกิจเอาต์ ซอร์ซิ่ง โดยในปี 2544
บริการเอาต์ซอร์ซิ่งมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของตลาดไอทีรวม
แต่คาดว่าในปี 2546 ตลาดจะมีการขยายตัวเพิ่มสัดส่วนเป็น 5%
ธุรกิจเอาต์ซอร์ซิ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และจะเติบโตมากในปี 2549 โดยปัจจัยที่จะส่งผลให้ตลาดโตเนื่องจากองค์กรต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
และต้องการความชำนาญของผู้ให้บริการมืออาชีพ
สำหรับตลาดรวมพีซีในประเทศไทย ช่วง 6
เดือนแรกของปี 2545 มีทั้งสิ้น 359,112
เครื่อง เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.6%
และคาดว่าตลาดรวมในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 768,510 เครื่อง
จากเมื่อปี 2544 ตลาดรวมพีซีจำนวน 73,619 เครื่อง และคาดว่าในปี 2546
ตลาดรวมจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 866,932 เครื่อง คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ
12.34% โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตสูงสุดในปีนี้คือผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก
โดยประมาณการว่าในปีนี้ตลาดโน้ตบุ๊กจะมียอดรวมถึง 120,577
เครื่อง โดยเติบโตจากปี 2544 ถึง 72%
ปัจจัยสำคัญก็มาจากราคาเครื่องที่ลดลง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาใช้โน้ตบุ๊กมากขึ้น
รวมถึงกรณีที่ผู้ผลิตโลคอลแบรนด์ต่างแนะนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ในขณะที่ตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะมีอัตราการเติบโตลดลง
โดยในปี 2544 ตลาดเครื่องพีซีตั้งโต๊ะมียอดรวมอยู่ที่ประมาณ 673,619 เครื่อง แต่ในปี 2545 คาดว่าตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 635,875 เครื่องเท่านั้น
ทั้งนี้ หากพิจารณาถึงกลุ่มลูกค้าที่มีการซื้อพีซีมากที่สุดคือ
กลุ่มธุรกิจ สัดส่วน 49% โดยแบ่ง เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ 16% ขนาดกลาง 15% ขนาดเล็ก 18% ขณะที่กลุ่มผู้ใช้ตามบ้าน
(โฮมยูส) มีสัดส่วนที่ 38%, กลุ่มราชการ 7% และตลาดการศึกษา 6%
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่
30 สิงหาคม 2545
|