IRC ระดมทุนเสริมความแกร่งเจาะภาครัฐ
"ไออาร์ซี" ชูภาพ "โซลูชั่น คอมพานี" ให้บริการโปรเฟสชั่นแนลเซอร์วิสโฟกัส
5 กลุ่มธุรกิจ เผยเตรียมแต่งตัวเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่
เสริมความแข็งแกร่งในการเจาะตลาดงานประมูลภาครัฐ ตั้งเป้ากวาดรายได้ทะลุ 900
ล้านบาท
นายจำรัส
สว่างสมุทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น
จำกัด หรือไออาร์ซี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงนโยบายการทำตลาดของบริษัทในปีนี้ว่า
จะเน้นการเป็นโซลูชั่น คอมพานี เพื่อให้บริการด้านไอทีโซลูชั่นอย่างครบวงจรแก่ลูกค้า
ในการเข้าไปช่วยให้งานของลูกค้ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
โดยโครงสร้างธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 5
กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มธุรกิจรวบรวมระบบคอมพิวเตอร์
สำหรับโครงการราชการต่างๆ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตตำบล, โครงการระบบบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กร
(อีอาร์พี) ให้กับการสื่อสารแห่งประเทศไทย
เป็นต้น 2) กลุ่มธุรกิจรวบรวมระบบเครือข่าย เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายอัลคาเทล
และทรีคอม โดยที่ผ่านมาได้จัดทำระบบแคมปัสเน็ตเวิร์กให้แก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น,
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย
3) กลุ่มธุรกิจภูมิสารสนเทศ โดยนำซอฟต์แวร์ยี่ห้อ TNT MIPS จากประเทศสหรัฐ เข้ามาพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้กับหน่วยงานต่างๆ เช่น
โครงการภาพถ่ายดาวเทียม ให้แก่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น 4) ธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือวัดและทดสอบ โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ Agilent
และ 5) ธุรกิจดิสทริบิวชั่น เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทโออีเอ็มให้แก่ไมโครซอฟท์
และกล้องดิจิทัลฟูจิ และในปีนี้จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มวิดีโอ
และอิมเมจจิ้งเข้ามาเสริม เช่น จอแอลซีดี และวิดีโอโปรเจ็กเตอร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากบริการ โดยทีมโปรเฟสชั่นแนลเซอร์วิส
ให้บริการให้คำปรึกษา, อิมพลีเมนต์, พัฒนาซอฟต์แวร์
และให้บริการหลังการขาย จึงทำให้เกิดความแตกต่างจากบริษัทอื่นได้ นายจำรัสกล่าวว่า
บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องเพื่อขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI)
โดยอยู่ในขบวนการยื่นขออนุญาตขายหุ้นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) ซึ่งคาดว่าจะกระจายหุ้นได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ วัตถุประสงค์หลักของการเข้าจดทะเบียน
คือ เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจ และสร้างเงินทุนหมุนเวียนโดยเฉพาะตลาดราชการที่ระบุให้หน่วยงานราชการต้องมีทุนจดทะเบียนตั้งแต่
100 ล้านบาทขึ้นไป ดังนั้นบริษัทจึงต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 42 ล้านบาท เป็น 110 ล้านบาท
"ปัจจุบันมีโครงการต่างๆ ของรัฐบาลเกิดขึ้นค่อนข้างมาก เราจึงเห็นโอกาสของโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเยอะ
ซึ่งเราเองมีความสามารถของบุคลากร และความสามารถเชิงเทคนิค แต่ขาดด้านเงินทุนหมุนเวียน
จึงเป็นเหตุผลที่ต้องนำบริษัทเข้าระดม และปัจจุบันบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 100 ล้านบาทก็ยังมีจำนวนน้อย ในปีนี้จึงอาจเห็นหลายบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพิ่มขึ้น"
ในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ที่ 900 ล้านบาท
โดยหลักๆ เป็นรายได้จากธุรกิจรวบรวมระบบคอมพิวเตอร์ และธุรกิจค้าส่งเป็นหลัก ขณะที่งานบริการจะสร้างรายได้ประมาณ
20% ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 684 ล้านบาท
ที่มา
: ประชาชาติธุรกิจ
ฉบับวันที่ 27 มีนาคม 2546
|