ไอดีซีเผยพีซีไทยโตสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซอฟต์แวร์ด้านโครงสร้างพื้นฐาน-ระบบรักษาความปลอดภัยโตสูง
ไอดีซี เผยตัวเลขการใช้จ่ายไอทีไทยปี 46 แตะ 1.88 พันล้านดอลล์ ปี 50 พุ่งสู่ 2.65 พันล้านดอลล์ ขณะที่ยอดเครื่องพีซี 1.2 ล้านเครื่อง
โต 34%
นายเจสัน แคดดีส์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย
บริษัทไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทวิจัยระดับโลก
กล่าวในการเปิดตัวตั้งธุรกิจในไทยเป็นครั้งแรกว่า บริษัทคาดการณ์ตัวเลขมูลค่าการใช้จ่ายไอทีของไทยปีนี้
1.88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตจากปีที่แล้ว 8.7% โดยตลาดไทยใหญ่เป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย ทั้งคาดว่า ปี 2550
มูลค่าการใช้จ่ายไอทีไทยอยู่ที่ 2.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การใช้จ่ายหลักยังอยู่ที่ฮาร์ดแวร์ 70% ซอฟต์แวร์ 10% บริการไอที 20% ใน 5 ปีข้างหน้า
การลงทุนฮาร์ดแวร์จะลดลง มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 7-8%
ซอฟต์แวร์เฉลี่ยโต กว่า 10% บริการไอทีโต 14.8% ปีนี้ตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ (พีซี) ไทย จะเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ 1.2 ล้านเครื่อง เติบโต 34% ซึ่งได้แรงผลักดันจากโครงการคอมพ์ไอซีที
แต่ปีหน้าไม่มีโครงการนี้ ตลาดฮาร์ดแวร์จะเริ่มลดลง
แม้ยังมีการลงทุนในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ธุรกิจธนาคาร ที่อัพเกรดจากเมนเฟรม
และคอร์แบงกิ้ง และปี 2548 ตลาดรัฐจะลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่จะส่งมอบเครื่อง
เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เอาท์ซอร์ส-ซิเคียวริตี้-โครงสร้างพื้นฐานโต
สำหรับกลุ่มเติบโตจะเป็นซอฟต์แวร์ด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยจัดการบริหารทรัพยากรระบบฮาร์ดแวร์ที่ลงทุนไปแล้ว
ทั้งการจัดการระบบสำรองข้อมูล เครือข่าย และระบบไอทีทั้งองค์กร โดยปีนี้ตลาดนี้จะอยู่ที่
27.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 13.5% นอกจากนั้นตลาดระบบรักษาความปลอดภัย
เช่น ซิเคียวริตี้ คอนเท้นท์ แมเนจเมนท์ และตลาดจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
จะเติบโตขึ้นด้วย ส่วนตลาดบริการไอที คาดว่าจะมีมูลค่า 17,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มป็น 30,000 ล้านบาท ในปี 2250 เติบโตเฉลี่ย 14.8% โดยปีนี้ตลาดเอาท์ซอร์ซิ่ง
สัดส่วน 15% ของบริการไอที ซึ่งมาจากแรงผลักดันธนาคารพาณิชย์เป็นต้นแบบและองค์กรขนาดใหญ่ไทยใน
100 อันดับแรก จะเริ่มเอาท์ซอร์สด้วย
ดาต้า เซอร์วิส โตในตลาดโทรพื้นฐาน
ส่วนตลาดโทรคมนาคมในไทยโดยเฉพาะผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน
มีรายได้รวมในปีนี้ที่ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสัดส่วนจากบริการเสียง ราว 82% หรือ 1.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในปี 2550 รายได้จากเสียงจะลดลงเหลือ 73% จากตลาดรวม 2.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้รายได้จากบริการข้อมูลหรือดาต้า เซอร์วิส
จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมาจากบริการวงจรเช่า (ลีสด์ไลน์)
โดยในปี 2549 บริการไอพีวีพีเอ็น และเมโทรแลน
จะเริ่มเติบโตขึ้นแทนบริการลีสด์ไลน์ เนื่องจากราคาที่ปรับลดลง โดยไอพีวีพีเอ็นเติบโตเฉลี่ย
22% ขณะที่ลีสด์ไลน์โต 13-14%
ชี้บรอดแบนด์ไทยต่ำสุด
ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์)
20,000 รายจากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 2.2
ล้านราย นับว่าต่ำสุดในภูมิภาค กระนั้นนโยบายกระทรวงไอซีทีการกำหนดอัตราบริการเดียว
(แฟลทเลท) จะช่วยให้จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้น
บริษัทได้ประมาณการรายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ต ปีนี้ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มเป็น 129 ล้านดอลลาร์
ในปี 2550 โดยเทคโนโลยีเอ็กซ์ดีเอ็กซ์แอลจะเติบโต 50-60% ซึ่งจะมากกว่าการใช้งานผ่านระบบหมุนโทรศัพท์ (ไดอัลอัพ)
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 7 ตุลาคม 2546
|