ไอดีซีฟันธงไอทีปี 50 ขึ้น 1.2 แสนล้านบาท
ไอดีซี คาดปี 2550
ตลาดไอทีไทยขึ้นสู่ 1.2 แสนล้านบาท ส่วนปีหน้าขยับใกล้ 9
หมื่นล้านบาท โดยมีกำลังซื้อจากบ้าน-ธุรกิจ-ภาครัฐช่วยหนุน
นายเจสัน แคดดีส์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย
บริษัท ไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การใช้จ่ายลงทุนเทคโนโลยีสารสนเทศไทย
ปี 2547 คาดว่าจะมีมูลค่า 87,320 ล้านบาท
(2,183 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เติบโตจากปีนี้ซึ่งมีมูลค่าตลาด
78,000 ล้านบาท (1,950
ล้านดอลลาร์สหรัฐ) 11.8% และคาดว่าปี 2548 จะโต 12% ส่วนอัตราเติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2545-2550 อยู่ที่ 10.1% ปี 2550
จะมีมูลค่ามากกว่า 1.2 แสนล้านบาท (3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับการเติบโตนั้น
จะมาจากความมั่นใจของผู้บริโภค อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐ
ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และสมาร์ทการ์ด ทำให้กลุ่มที่ลงทุนโดดเด่นจะเป็นองค์กรธุรกิจ
และตลาดภาครัฐ เฉพาะภาครัฐจะมีมูลค่าการลงทุน 7,440 ล้านบาท (186 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ปีหน้าตลาดใหญ่ที่สุดยังเป็นกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปในตลาดบ้าน
มูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท (500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่จะมีอัตราเติบโตลดลงจากปีนี้ ซึ่งมีมูลค่าใช้จ่ายมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะปีนี้มีแรงหนุนจากคอมพิวเตอร์ไอซีที
และได้จัดซื้อไปมากแล้ว รองลงมา เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท (400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามด้วยธนาคาร/การเงิน มากกว่า (1.2 หมื่นล้านบาท) 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโทรคมนาคม/สื่อ เกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มเหล่านี้ชะลอการลงทุนและจะเริ่มฟื้นอีกครั้งปีหน้า
ขณะที่นายนรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
นักวิเคราะห์อาวุโส ส่วนงานวิจัยฮาร์ดแวร์ กล่าวว่า ปีหน้าตลาดพีซี
ทั้งเครื่องตั้งโต๊ะ,
โน้ตบุ๊คพกพา และเครื่องแม่ข่ายที่ใช้ชิพอินเทล จะเติบโตจากปีนี้ 10% หรือเป็น 1,240,045 เครื่อง จากปีนี้มี 1,128,203 เครื่อง เติบโตจากปีที่แล้ว 45% นายทวีสิทธิ์
กุลอองคณานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส ส่วนงานวิจัยโทรคมนาคม บริษัทเดียวกัน กล่าวว่า
ปีหน้า ตลาดโทรคมนาคม ทั้งโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีมูลค่า 2 แสนล้านบาท จากปีนี้คาด 1.88 แสนล้านบาท
โดยสื่อสารไร้สายมีสัดส่วน 56% ซึ่งปัจจัยหลักการเติบโตมาจากกลุ่มผู้ใช้พรีเพด
บริการใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาด และคาดว่าเอ็มเอ็มเอสจะสร้างรายได้ใหม่สำคัญปีหน้าด้วย เฉพาะตลาดบริการไร้สาย
มีสัดส่วนรายได้จากบริการที่ไม่ใช่เสียง (นอน-วอยซ์) อยู่ระดับ 5% ของรายได้
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 19 ธันวาคม 2546
|