ไอซีทีตั้งกก.ยุทธศาสตร์บีพีโอ หนุนเอาท์ซอร์ส
ไอซีที หนุนอุตสาหกรรม บีพีโอ
รุกตั้งกรรมการวางยุทธศาสตร์แห่งชาติ หวังมีชื่อติดกลุ่มรับงานเอาท์ซอร์สระดับโลก
ทั้งเตรียมเสนอ ครม.
จัดตั้งองค์การมหาชน สนับสนุนงานด้านไอซีทีเต็มที่ ไม่สนเนคเทค
ภายใน 1 เดือน
น.พ.สุรพงษ์
สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวง
ได้จัดตั้งคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์บีพีโอแห่งชาติ (Business Process
Outsourcings) ขึ้น มี รมว.ไอซีที เป็นประธาน
ร่วมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น บีโอไอ ภาคเอกชนด้านไอที และโทรคมนาคม เช่น
บมจ.เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น เพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมด้านนี้ของไทยให้เติบโต
และเป็นที่รู้จักต่อบริษัท ที่ต้องการเอาท์ซอร์สงานต่างๆ จากทั่วโลกมาให้ โดยคณะกรรมการจะร่วมกำหนดยุทธศาสตร์
4 ด้าน ได้แก่
1.ด้านเครือข่าย มีนายไกรสร พรสุธี
รองปลัดกระทรวงไอซีที เป็นผู้เจรจากับ บมจ.กสท โทรคมนาคม และ
บมจ. ทศท คอร์ปอเรชั่น ดำเนินการให้โครงข่ายมีคุณภาพดี
และราคาแข่งขันกันได้กับประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดียที่ครองตลาดกว่า 50%, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ฮ่องกง
และสิงคโปร์
2.การพัฒนาคน มีนายมนู อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ
(ซิป้า) เจรจากับเอกชน พัฒนาบุคลากรให้มีทักษะรองรับงานคอลล์เซ็นเตอร์
3.สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งนิติบุคคล
บุคคลธรรมดา การให้วีซ่าผู้เชี่ยวชาญ เป็นความรับผิดชอบของบีโอไอ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน
เสนอแนวทางให้สิทธิประโยชน์ที่ดีอย่างน้อยเท่ากับประเทศคู่แข่ง
4.การทำประชาสัมพันธ์และการตลาด
ให้เป็นที่รู้จักของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ คณะกรรมการจะต้องส่งรายละเอียดแนวทางต่างๆ
กลับมาภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้
นอกจากนี้ ไอซีทีเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) จัดตั้งองค์การมหาชนอีก 1 แห่ง ภายใน 1 เดือน เพื่อส่งเสริมงานไอซีทีทั้งระบบ ทั้งเชิงนโยบาย และกฎหมาย แต่ยังไม่ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ
โดยขณะนี้งานไอซีทีที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
(เนคเทค) เคยรับผิดชอบ ได้โอนมายังไอซีทีแล้ว ต่อไปเนคเทคจะได้รับงบประมาณเฉพาะงานด้านวิจัยเท่านั้น
และรับผิดชอบบุคลากรทั้งหมดที่ไม่โอนย้ายด้วย
ขณะเดียวกัน
กระทรวงไอซีทีได้จัดตั้งศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ เพื่อให้ผู้สนใจโดยเฉพาะเยาวชนเข้าค้นหาความรู้
โดยลงทะเบียนที่ www.tkc.go.th
ซึ่งเนื้อหาความรู้ได้รับบริจาคจากผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ 13 ด้าน แบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น การศึกษา การเงิน
และเชื่อมโยงไปยังเวบที่มีประโยชน์ด้านต่างๆ ทั่วโลกกว่า 12,000 เวบ ปีแรกตั้งเป้าผู้สนใจเข้าหาข้อมูล 1,000,000 คน
และมีผู้เชี่ยวชาญร่วมสนับสนุนเนื้อหากว่า 100 คน
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547
|