จีเอสเอ็ม ตั้งเป้าครองตลาด 3จีโลก ชี้ไทยศักยภาพการเติบโตสูง
จีเอสเอ็ม ชูธงเป็นระบบสื่อสารไร้สายชั้นนำ
หลังยอดผู้ใช้เพิ่มถึง 1 พันล้านรายทั่วโลก ตั้งเป้าครองส่วนแบ่ง 80% อีก 5 ปี พร้อมดันต่อยอดเป็นเครือข่ายยุคหน้า
ด้านจีนประกาศเตรียมเปิดตัว 3จี แต่ยังอุบชื่อเครือข่าย
นายบิล กาจด้า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สมาคมผู้ประกอบธุรกิจสื่อสารไร้สายระบบจีเอสเอ็ม
(จีเอสเอ็มเอ)
เปิดเผยว่า ในปีนี้ เครือข่ายจีเอสเอ็มมีผู้ใช้บริการสูงถึง 1 พันล้านรายแล้ว นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อ 12
ปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วน 73% ของผู้ใช้บริการระบบสื่อสารไร้สายทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ทางสมาคมตั้งเป้าว่า จะมีผู้ใช้บริการเครือข่ายจีเอสเอ็มถึง 2 พันล้านคน หรือครองสัดส่วนตลาดถึง 80% ในปี 2551 โดยภูมิภาคที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ได้แก่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเอเชีย แปซิฟิก ที่ตอนนี้มีผู้ใช้บริการกว่า 370 ล้านรายแล้ว
หรือคิดเป็น 41% ของจำนวนผู้ใช้ทั่วโลก โดยมีประเทศจีน เป็นตลาดที่มีผู้ใช้บริการสูงถึงกว่า
400 ล้านราย และถือเป็นตลาดเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขายังกล่าวอีกว่า
ระบบจีเอสเอ็มนั้น มีนโยบายที่ชัดเจน ในการพัฒนาไปสู่ยุคของการสื่อสารไร้สายยุคที่สาม
หรือที่มีชื่อเรียกว่า 3จีเอสเอ็ม (3GSM) ซึ่งปัจจุบันเครือข่ายดังกล่าวได้เปิดให้บริการแล้วในหลายประเทศแถบยุโรป และคาดว่าในปีหน้า
จะมีผู้เปิดให้บริการทั่วโลกราว 40 ราย โดยในเอเชีย มีบริษัทสิงเทล
ของสิงคโปร์ และไชน่า โมบายล์ ในประเทศจีน
จีนเตรียมส่ง 3จี ตีตลาด
ขณะที่ หนังสือพิมพ์ นิฮอน เกอิไซ รายงานว่า
ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย และเครือข่ายพื้นฐานในประเทศจีน จะเริ่มเปิดให้บริการเครือข่ายมือถือความเร็วสูงยุคหน้า
ในเขตกรุงปักกิ่ง,
เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ก่อนขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม จีนยังคงไม่ได้จำหน่ายลิขสิทธิ์ระบบ 3จี ให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่าย จึงยังไม่แน่นอนว่า
ทางรัฐบาลจะใช้ประกาศให้มาตรฐาน 3จีตัวใด
เป็นมาตรฐานของประเทศ ระหว่างเครือข่าย ทีดี-เอสซีดีเอ็มเอ (TD-SCDMA)
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จีนพัฒนาขึ้น, ซีดีเอ็มเอ2000
(CDMA2000) ของสหรัฐ และไวด์แบนด์ ซีดีเอ็มเอ (WCDMA) ซึ่งพัฒนาขึ้นจากเครือข่ายจีเอสเอ็ม ของยุโรป
กระนั้น แหล่งข่าวเผยว่า บริษัท ต้าถุง เทเลคอม
เทคโนโลยี โค. บริษัทโทรคมนาคมของรัฐบาลจีน ได้พัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับมาตรฐานเครือข่ายทีดี-เอสซีดีเอ็มเอ เครื่องแรกของโลก สำเร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังวางแผนร่วมมือกับผู้ผลิตมือถือในประเทศ
เพื่อวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ภายในปี 2548 ทั้งนี้
จากสถิติเมื่อปลายเดือนกันยายน จีนมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ราว 249.97 ล้านคน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านคน ภายในปี 2551 โดยกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรเหล่านี้
จะใช้เครือข่าย 3จี
ชี้ตลาดไทยเติบโตสูง
นายกาจด้า กล่าวว่า ส่วนตลาดไทยนั้น
ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง และอยู่ในสถานะที่สามารถเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ได้
โดยปัจจุบัน เทคโนโลยีจีเอสเอ็มมีส่วนแบ่งประมาณ 95% ของระบบการสื่อสารไร้สายในไทย
ขณะที่ บริการสื่อสารข้อความอย่างเอสเอ็มเอส หรือบริการอื่นๆ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
รวมถึงการบริการเอดจ์ ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาด้วย
"ในประเทศไทย ไม่แน่ใจว่าเรื่องของ 3จีจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
แต่ก็มีการแนวโน้มการใช้งานบริการสื่อสารข้อมูลมาก" นายกาจด้า
เขากล่าว พร้อมเผยว่าในปีหน้า
นอกจากจะมีการเปิดให้บริการแล้ว จะมีการวางจำหน่ายเครื่องลูกข่ายออกมามากขึ้นด้วย
จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 6-10 รุ่น รวมถึงจะมีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยี
และพัฒนาการด้านแอพพลิเคชั่นด้วย นอกจากนี้ สมาคม
ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการในรูปแบบต่างๆ เช่น การขอความร่วมมือผู้ประกอบการ
ในส่งข้อความสั้นไปยังผู้ใช้ หรือขอความร่วมมือในการทำกิจกรรมตอบแทนสังคม เช่น ทางสมาคมได้ริเริ่มจัดตั้งศูนย์จำแนกการจดทะเบียนเครื่องขึ้น
สำหรับป้องกันการลักขโมยเครื่อง ศูนย์ดังกล่าวจะรับแจ้งกรณีที่เครื่องถูกขโมย และจะเข้าดำเนินการหากมีการนำเครื่องมาใช้
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 4 พฤศจิกายน 2546
|