อีเอสอาร์ไอเสนอข้อมูลแผนที่จากดิจิทัลสู่กระดาษ
อีเอสอาร์ไอ
สยายปีกนำเสนอข้อมูลแผนที่กระจายทุกช่องทาง จากข้อมูลดิจิทัลสู่กระดาษ
พร้อมเข้าสู่อุปกรณ์จีพีเอสในตลาดคอนซูเมอร์ครั้งแรก เล็งเจาะตลาดเอสเอ็มอี
แบบคิดค่าบริการรายเดือน หลังความพร้อมหลังการจัดทำข้อมูลแผนที่กว่า 3 ปี เสริมตลาดหลักเดิมบริการด้านแผนที่ในตลาดองค์กร
นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป
บริษัทอีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือซีดีจี กล่าวว่า
บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัทซีเอ็ด จำกัด (มหาชน) จัดทำแผนที่กระดาษเพื่อจำหน่ายเป็นครั้งแรก เพื่อกระจายไปยังกลุ่มคนกว้างขวางขึ้น
โดยเฉพาะผู้ใช้ทั่วไป จากปีนี้บริษัทมีความพร้อมด้านข้อมูลแผนที่ดิจิทัลของประเทศไทย
ทั้งถนน แผนที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ใช้เวลากว่า 3 ปีจัดทำ ซึ่งจะสร้างฐานรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น
(ไดเวอร์ซิฟายด์) จากเดิมมีธุรกิจการให้บริการแผนที่ดิจิทัลกับองค์กรขนาดใหญ่
โดยเฉพาะหน่วยงานราชการเป็นหลัก
พร้อมกันนี้
เริ่มขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มคอนซูเมอร์ โดยทำตลาดอุปกรณ์เครื่องสำรวจพิกัดดาวเทียม (จีพีเอส)
ยี่ห้อการ์มิน (GARMIN) จากสหรัฐ โดยได้พัฒนาร่วมกันซึ่งบริษัทนำแผนที่ดิจิทัลประเทศไทยผนวกเข้าในอุปกรณ์ด้วย
สร้างความแตกต่างแก่ผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะอุปกรณ์นำเข้าเอง (เกรย์
มาร์เก็ต) ซึ่งมีช่องว่างราคาอยู่ 10%-20%
โดยอุปกรณ์จีพีเอส
ที่นำเข้ามาทำตลาดอยู่ในตระกูลอี-เทร็กซ์ (e-Trex) และตระกูลนาฟทอล์ค
ทู ( NAVTalk II) ที่จะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่จีเอสเอ็มดูอัลแบนด์
และพีดีเอ รวมถึงจีพีเอสในเครื่องเดียวกัน ซึ่งกำลังเจรจากับบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
ทั้งทีเอ ออเร้นจ์ และเอไอเอสด้วย คาดว่าผู้ให้บริการจะทำตลาดเอง และบริษัทจะมีรายได้จากค่าไลเซ่นของการใช้แผนที่ในเครื่องโทรศัพท์
ประมาณเครื่องละ 5,000 บาทด้วย นอกจากนี้ ในระยะยาว จะสามารถสร้างรายได้และความร่วมมือกับผู้ให้บริการเสนอการให้บริการ"โลเกชั่น เบส เซอร์วิส" ได้
สำหรับตลาดอุปกรณ์จีพีเอส จะมุ่งที่นักสำรวจและนักเดินทางผจญภัยเป็นหลัก
โดยตั้งเป้าขายที่ 5,000 เครื่อง
เจาะตลาดเอสเอ็มอี
ทั้งบริษัทยังขยายเข้าไปในตลาดองค์กรขนาดกลางและเล็ก
(เอสเอ็มอี)
ที่จะเริ่มให้บริการแผนที่ (เอ็มเอสพี:Map
Service Provider) ซึ่งจะคิดค่าบริการข้อมูลแผนที่
โดยบอกรับเป็นสมาชิกรายเดือน เน้นธุรกิจธนาคาร ประกันภัย และดิลิเวอร์รี่ ด้วย
ราชการ โตตามนโยบายอีกอฟเวิร์นเม้นต์
นอกจากนี้ยังเห็นว่า
ปีนี้ตลาดแผนที่ดิจิทัลจะเติบโตมาก โดยเฉพาะในตลาดราชการเอง จากนโยบายของภาครัฐที่จะลดการจัดทำแผนที่เชิงภูมิศาสตร์
(จีไอเอส)
ลดความซ้ำซ้อนและให้แบ่งปันการใช้ข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดัน
ล่าสุดบริษัทได้รับโครงการกระทรวงเกษตรสหกรณ์มูลค่า 333 ล้าน
เป็นระยะเวลา 2 ปี ที่จะทำแผนที่ฐาน (BASE MAP) ของพื้นที่เกษตรในประเทศไทยด้วย โดยให้กรมต่างๆ เช่น กรมแผนที่ กรมป่าไม้ หยุดการพัฒนาข้อมูลแผนที่
และรอให้เกิดแผนที่ฐาน จึงค่อยพัฒนาข้อมูลเฉพาะต่อไป "บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ประมาณ
700 ล้านบาท เติบโตเท่าตัวจากปีที่แล้วซึ่งมีรายได้กว่า 300 ล้านบาท โดยเป็นตลาดองค์กรขนาดใหญ่ร้อยละ 80
ที่เหลือมาจากตลาดคอนซูเมอร์" นายไกรรพ กล่าว
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 มีนาคม
2545
|