รายงาน ซีอีโออุตฯไอทีชี้ไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวในปีนี้
ดาวอส - ผู้บริหารบริษัทไฮเทค
ฟันธงอุตสาหกรรมไอทีปี 2546 จะยังคงไม่ฟื้นตัว ระบุสาเหตุสำคัญหวั่นการเกิดสงครามอิรัก
ผลักดันให้หลายบริษัทตั้งรับด้วยนโยบายรัดเข็มขัด ขณะที่ผู้นำบางส่วนมองในแง่ดี ชี้จะใช้จ่ายบ้างแต่น้อย
โดยส่วนใหญ่เน้นหมวดอุปกรณ์ด้านสุขภาพ และความปลอดภัยส่วนบุคคลเป็นสำคัญ
ผู้บริหารบริษัทไฮเทคหลายราย ไม่ว่าจะเป็นนายบิล
เกตส์ ประธานบริหารบริษัทไมโครซอฟท์ หรือนายไมเคิล เดลล์ ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอันดับสองของโลก
เชื่อว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ฟองสบู่ในยุคอินเทอร์เน็ตแตก ปริมาณความต้องการเทคโนโลยีทั่วโลกจะยังคงไม่ฟื้นตัว
นายเกตส์กล่าวที่งานประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกที่ชัดเจนเกิดขึ้นในปีนี้
ขณะที่นายเดลล์ หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัทเดลล์ คอมพิวเตอร์ แสดงความคิดเห็นคล้ายๆ
กันว่า สถานการณ์โดยรวมอยู่ในระดับใช้ได้ แต่ยังไม่ดีมากนัก
ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของโลกหลายแห่งเข้าร่วมงานประชุมเวิลด์
อีโคโนมิค ฟอรัม ซึ่งจัดขึ้นที่รีสอร์ทในสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีผู้นำทางการเมืองและธุรกิจกว่า
2,000 คน เข้าร่วมในแต่ละปี
สำหรับหัวข้อหลักของการประชุมในครั้งนี้
จะเกี่ยวข้องกับสงครามในอิรัก และภาวะเศรษฐกิจซบเซาของสหรัฐ
แต่ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยี ได้พยายามผลักดันตลาด ด้วยการจัดประชุมร่วมกับลูกค้า
ซึ่งมีตั้งแต่ผู้บริหารบริษัทผลิตเครื่องบิน ไปจนถึงผู้บริหารเครือข่ายร้านค้าปลีกระดับโลก
นายจอห์น แชมเบอร์
หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัทซิสโก้ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่าย เน้นถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
พร้อมยกตัวอย่าง ยอดขายสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว
แต่กลับตกต่ำลงหลังฤดูร้อนเป็นต้นมา และนั่นเป็นเหตุผลให้นายสก็อต แมคนีลี
หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เครือข่ายในสหรัฐ ซึ่งผลประกอบการช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ลังเลใจจะเรียกแนวโน้มดังกล่าวว่า "การเติบโต"
กระนั้น เหตุการณ์เหล่านี้ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับผู้บริหารคนอื่นในการวางแผนใช้เงินลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ
หลังจากที่ปี 2545 ประสบภาวะซบเซาตลอดทั้งปี ตัวอย่างเช่น
นายอูลริช ชูแมคเกอร์ หัวหน้าฝ่ายบริหาร บริษัทอินฟินิออน ผู้ผลิตชิพรายใหญ่อันดับสองของยุโรป
ซึ่งทำนายว่า สถานการณ์ปี 2546 จะไม่เลวร้ายไปกว่าปีก่อนหน้านี้
ไม่โตแต่ก็ไม่ถดถอย
ขณะที่นางคาร์ลี ฟิออรินา
หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด เปิดเผยว่า ยังคงมีโอกาสสำหรับการเติบโตในระยะยาว
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยพูดว่าไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ พร้อมเสริมว่า
ยอดขายผู้บริโภคในสหรัฐของภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา
"ไม่ดีอย่างที่คิด" ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจสหรัฐต้องเผชิญกับความตกต่ำต่อไป
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่มีสัญญาณการถดถอยใดๆ เกิดขึ้น "พื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมาก
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมองในแง่ดี" นางฟิออรินากล่าว นอกจากนี้
นางฟิออรินายังเปิดเผยอีกว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตลาดเทคโนโลยี จะทำให้อุตสาหกรรมแห่งนี้
ไม่สามารถกลับไปมีอัตราการเติบโตในระดับ 4-5 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้
และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการขยายตัวในระดับ 1-2
เท่าเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่า ใน "สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจปกติ"
เอชพีจะมีตัวเลขการเติบโต 7-9%
หวั่นสงครามอิรัก
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารบางรายกังวลเกี่ยวกับสงครามในอิรักที่ปรากฏขึ้นลางๆ
แล้วในขณะนี้ ทำให้หลายบริษัทกวดขันการใช้งบประมาณและลดการลงทุนด้านเทคโนโลยีลง แต่ยังคงน้อยกว่าปี
2545 ซึ่งส่วนใหญ่ปรับลดการลงทุนอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น บริษัทเคที บริษัทบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโทรศัพท์พื้นฐานยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้
มีแผนจะลดการลงทุนลงมากถึง 10% ส่วนนายอีริค เบนฮามู
หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัทปาล์ม ผู้นำตลาดคอมพิวเตอร์พกพา ทำนายว่า
การใช้จ่ายด้านไอทีจะขยายตัวเพียงเล็กน้อย ขณะที่การลงทุนด้านโทรคมนาคมจะลดลง ด้านเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์
และอินฟินิออน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่สูงที่สุดในโลกเท่ากับผู้ให้บริการโทรคมนาคม
ได้ประกาศว่า จะปรับลดงบประมาณลงหรืออาจรักษาระดับเท่ากับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้
นายเจอราร์ด ไคลสเตอร์ลี หัวหน้าฝ่ายบริหาร บริษัทฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์
ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก คาดว่า
การใช้จ่ายทางเทคโนโลยีจะสูงในหมวดอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และความปลอดภัยส่วนบุคคล
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 29 มกราคม 2546
|