"บีโอไอ" โดดอุ้มอุตฯซอฟต์แวร์ บ.ไทย-เทศทั่วปท.ได้เว้นภาษี 8 ปี
บีโอไอขานรับซิปป้า
หนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เต็มสูบ ให้สิทธิประโยชน์บริษัทซอฟต์แวร์ไทย-เทศโดยได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
8 ปีเต็มทั่วประเทศ
จากเดิมจำกัดเฉพาะบริษัทที่ลงทุนในซอฟต์แวร์พาร์คเท่านั้น เผยเตรียมเสนอบอร์ดบีโอไอในการประชุมครั้งต่อไป
พร้อมแก้ปมปัญหาการให้วีซ่าพิเศษผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้ามาทำงานถ่ายทอดโนว์ฮาว
นายมนู
อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิปป้า)
กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากการที่ซิปป้าได้หารือกับสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในประเทศไทย
ขณะนี้ได้มีข้อสรุปในเบื้องต้นแล้ว
โดยบีโอไอจะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดในครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้จะได้ข้อสรุป
ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ที่ทางบีโอไอได้พิจารณา
ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องจากเอกชน คือการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปีเต็มให้กับบริษัทที่ลงทุนด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยไม่จำกัดว่าบริษัทดังกล่าวจะลงทุนในพื้นที่ใดในประเทศไทย
เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาบีโอไอจะจำกัดสิทธิยกเว้นภาษีเงิน 8 ปีเฉพาะบริษัทที่ลงทุนในเขตอุตสาหกรรมซอฟต์ แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) เท่านั้น
และผู้ที่ลงทุนนอกซอฟต์แวร์พาร์คก็จะได้รับยกเว้นภาษีเพียง 5
ปี นอกจากนี้เดิมยังมีข้อจำกัดว่าการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทที่ลงทุนด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์
จะต้องไม่เกินเงินลงทุนของบริษัท ซึ่งในเงื่อนไขใหม่นั้นจะยกเลิกเพดานดังกล่าว
นายมนูกล่าวว่า เนื่องจากอุตสาหกรรมซอฟต์
แวร์เป็นอุตฯที่มีการลงทุนต่ำ ไม่เหมือนอุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ ที่จะต้องมีการลงทุนในแง่ทรัพย์สินหรืออุปกรณ์จำนวนมาก
ทำให้เม็ดเงินในการลงทุนของผู้ประกอบการแต่ละรายไม่สูงมากแต่เป็นการลงทุนด้านบุคลากรมากกว่า
แต่เงื่อนไขเดิมของ บีโอไอจำกัดไว้ว่าการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจะต้องไม่เกินงบฯการลงทุนทำให้ผู้ประกอบการได้รับสิทธิประโยชน์น้อยไม่เป็นที่จูงใจ
นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการลงทุนด้านซอฟต์แวร์มากขึ้นคือ การขจัดปัญหาเรื่องการนำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาทำงาน
เพราะในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ต้องอาศัยการถ่ายทอดโนว์ฮาวและเทคโนโลยีต่างๆ การที่จะพัฒนาคนไทยก็ต้องเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาด้วย
ซึ่งแต่เดิมบีโอไอก็จำกัดให้เฉพาะบริษัทที่มีการลงทุนขนาดใหญ่เท่านั้นที่จะได้รับสิทธิในการออกวีซ่าพิเศษให้กับเจ้าหน้าที่ได้
แต่ในเงื่อนไขใหม่นั้นบีโอไอได้ตกลงที่จะให้บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ว่าจะได้รับการส่งเสริมการลงทุนหรือไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว
โดยบีโอไอจะมอบหมายให้ซิปป้าทำหน้าที่เป็นหน่วยงานตัวแทนในการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่จะเข้ามาว่าเป็น
knowlage worker ทางด้านซอฟต์แวร์ตามที่บริษัทนั้นยื่นขอไว้หรือไม่ รวมถึงการพิจารณาถึงความเหมาะสมของผู้ประกอบการที่มายื่นของนำเข้าผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
เรียกว่าซิปป้าเป็นผู้ช่วยดูแลในเรื่องคุณสมบัติในการพิจารณาเพื่อที่จะพิจารณาออกวีซ่าพิเศษให้ได้ภายใน
1 วัน จากเดิมที่บริษัทใดต้องนำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาทำงานจะต้องใช้เวลานานร่วมเดือน
และจะต้องติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม การที่บีโอไอจะเสนอบอร์ดเพื่อปรับเงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์การลงทุนนั้น
ในขณะเดียวกันก็จะมีขบวนการตรวจสอบบริษัทต่างๆ ที่มายื่นขอสิทธิประโยชน์ว่าเป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย
อย่างไรถึงจะเรียกว่าเข้ามาลงทุนในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ไม่ใช่เพียงเป็นแค่การทำตลาด หรือเป็นการเข้ามาทำภาษาท้องถิ่นเท่านั้น
ที่มา
: ประชาชาติธุรกิจ
ฉบับวันที่ 8 เมษายน 2547
|