ระบบดูแลสุขภาพเขื่อน – NECTEC-ACE 2018 https://www.nectec.or.th/ace2018 Annual Conference and Exhibition 2018 Fri, 02 Nov 2018 10:44:36 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=4.9.8 https://www.nectec.or.th/ace2018/wp-content/uploads/2018/06/cropped-ace-512-32x32.png ระบบดูแลสุขภาพเขื่อน – NECTEC-ACE 2018 https://www.nectec.or.th/ace2018 32 32 Session 12 : เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของการบริหารจัดการน้ำ https://www.nectec.or.th/ace2018/ss12-dsrms/ Fri, 10 Aug 2018 23:19:48 +0000 https://www.nectec.or.th/ace2018/?p=875 Read more

]]>

หัวข้อ : เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของการบริหารจัดการน้ำ

ห้องสัมมนา : Meeting Room 4
เวลา : 14.45 – 16.15 น.

น้ำมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและช่วยรักษาสภาพแวดล้อมของประเทศ ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบทั้งภาวะภัยแล้งและอุทกภัยอย่างรุนแรงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นมูลค่ามหาศาล เขื่อนคือสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมสำหรับบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การรักษาสมดุลระบบนิเวศน์ลำน้ำ การเกษตร และอื่น ๆ ให้เหมาะสม นอกจากนั้นเขื่อนช่วยรองรับปริมาณน้ำส่วนหนึ่งไว้เพื่อชะลอน้ำท่วมพื้นที่ท้ายน้ำในช่วงน้ำหลากและกักเก็บน้ำไว้ให้ประชาชนได้ใช้อย่างเพียงพอในสถานการณ์น้ำแล้งการเสวนานี้จะกล่าวถึงการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศในการดูแลความปลอดภัยของตัวเขื่อนตลอดจนการบริหารจัดการน้ำที่ได้จากเขื่อนเพื่อการอุปโภคบริโภค

การบริหารจัดการน้ำต้องคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญคือความปลอดภัยของตัวเขื่อน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีเขื่อนขนาดใหญ่อยู่ในความรับผิดชอบทั้งหมด14เขื่อนทั่วประเทศซึ่งมีบทบาทสำคัญในภาระกิจการบริหารจัดการน้ำของประเทศการดูแลความปลอดภัยเขื่อนของ กฟผ. นั้นนอกจากทำการตรวจสอบเขื่อนด้วยสายตา (Visual Inspection) เป็นประจำโดยเจ้าหน้าที่ประจำเขื่อนและผู้เชี่ยวชาญแล้ว กฟผ. ยังได้พัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยมาช่วยในการตรวจสอบอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่ผู้ตรวจสอบไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ด้วยตนเอง หรือใช้เวลามากในการตรวจสอบ

ในช่วงหน้าแล้ง เขื่อนนั้นยังเป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคที่สำคัญในการเพิ่มปริมาณการไหลลงของน้ำท่า ลดผลกระทบของการรุกล้ำของน้ำทะเล เพื่อรักษาคุณภาพน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค การประปานครหลวง (กปน.) มีหน้าที่หลักในการจัดหาแหล่งน้ำดิบ จัดให้ได้มาซึ่งน้ำดิบเพื่อใช้ในการประปา สำหรับกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อการดังกล่าว กปน. ได้พัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และ ระบบสารสนเทศ ที่ทันสมัยมาช่วยในตรวจสอบและรายงานคุณภาพน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาที่ได้คุณภาพตามมาตราฐานสากล

กำหนดการ

14.45 – 16.15 น.  เสวนา หัวข้อ การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศในการดูแลความปลอดภัยเขื่อนตลอดจนการบริหารจัดการน้ำที่ได้จากเขื่อนเพื่อการอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย

  • เทคโนโลยีและการพัฒนางานด้านความปลอดภัยเขื่อน กฟผ.
    โดย คุณดนัย วัฒนาดิลกกุล
    หัวหน้ากองความปลอดภัยเขื่อน กฟผ.
    ดาวน์โหลดไฟล์นำเสนอ
  • การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนภายใต้ความดูแลของ กฟผ.
    โดย คุณชัยยุทธ จารุพัฒนานนท์
    หัวหน้ากองจัดการทรัพยากรน้ำ กฟผ.
    ดาวน์โหลดไฟล์นำเสนอ
  • ระบบสารสนเทศเพื่อภาระกิจของการประปานครหลวงในด้านการจัดการน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปา
    โดย คุณนิพนธ์ ลีลารุจิ
    หัวหน้าส่วนสารสนเทศทรัพยากรน้ำ
    ดาวน์โหลดไฟล์นำเสนอ

ดำเนินรายการโดย
ดร. จิตติวุฒิ สุวัตถิกุล
คุณสิริอร อุมรินทร์
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

]]>
About NECTEC-ACE 2018 https://www.nectec.or.th/ace2018/about/ Thu, 02 Aug 2018 11:57:18 +0000 https://www.nectec.or.th/ace2018/?p=737 Read more

]]>
งานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทค ประจำปี 2561
NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2018
“ประเทศไทยก้าวไกล ด้วยงานวิจัยใช้ได้จริง”

วันอังคารที่ 25 กันยายน 2561
ณ ห้องบอลรูม รีเซฟชั่นฮอลล์ โซนเอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

ปาถกฐา “ประเทศไทยก้าวไกล ด้วยงานวิจัยใช้ได้จริง”
โดย ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร
ดาวน์โหลดไฟล์นำเสนอ

ประเทศไทยยังคงเดินหน้าตามนโยบายปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และปฏิรูปประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0 จะใช้นวัตกรรมนำไทยสู่ประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหน่วยงานทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันกำหนดแนวทางการพัฒนาประเทศ และร่วมมีบทบาทในการขับเคลื่อน ไทยแลนด์ 4.0 พร้อมกับการปูพื้นฐานในการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 เพื่อส่งเสริม และสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ สร้างสังคมแห่งโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) จึงกำหนดนโยบายหลักมุ่งเน้น 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ วิทย์แก้จน วิทย์สร้างคน วิทย์เสริมแกร่ง และวิทย์สู่ภูมิภาค

รัฐบาลได้ให้การสนับสนุน 4 นโยบายดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบโครงการพัฒนาพิเศษขนาดใหญ่ (Big Rock) ให้กับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นงบประมาณทั้งสิ้น 3,292 ล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยในระยะสั้นคือ เพื่อแก้ปัญหาของประเทศให้ตรงจุด และตรงกับความต้องการของคนในประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำหรือแก้จนให้กับคนส่วนใหญ่ พร้อมกับสร้างคนรุ่นใหม่ ให้มีความคิดสร้างสรรค์ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม 4 นโยบายหลักจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ถูกตั้งความหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งกลไกหลักในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ตามยุทธศาสตร์หลักของรัฐบาล ต่อไป

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หน่วยงานหนึ่งในสังกัดสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ เนคเทค-สวทช. ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีพันธกิจหลักดำเนินการวิจัย พัฒนา ออกแบบ วิศวกรรม และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของอุตสาหกรรมภายในประเทศให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากร ตลอดจนเสริมสร้าง โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สังคม และชุมชนของประเทศ ด้วยพันธกิจดังกล่าว เนคเทค จะนำเอาผลงานวิจัยและองค์ความรู้ที่สะสมอย่างยาวนาน มาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนประเทศสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ให้เกิดเป็นรูปธรรม ผลิตผลงานวิจัยที่จับต้องได้สามารถนำไปใช้ได้จริง เนคเทคได้กำหนดกรอบวิจัย 5 ประเด็นมุ่งเน้น เพื่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายและสอดคล้องตามนโยบายหลัก 4 ประเด็นสำคัญของกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่

“วิทย์แก้จน” ด้วยกรอบวิจัยมุ่งเน้นทางด้านเกษตรและอาหาร
“วิทย์สร้างคน และวิทย์เสริมแกร่ง” ด้วยกรอบวิจัยมุ่งเน้นทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ ด้านสุขภาพและการแพทย์ ด้านการศึกษา ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
“วิทย์สู่ภูมิภาค” ด้วยกรอบวิจัยมุ่งเน้นทางด้านการศึกษาการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการพัฒนาชุมชนชายขอบ

ในทุกๆ ปี เนคเทค-สวทช. จะจัดให้มีการประชุมวิชาการประจำปี ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาผลงานวิจัยและส่งเสริมการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานประชุมวิชาการ เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าผลงานวิจัย พัฒนา และวิศวกรรมทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ในสาขาต่างๆ ที่ใช้งานได้จริง และนำไปสู่ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และภาคการศึกษา เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการสร้างนวัตกรรม เพื่อสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมในระดับประเทศได้อย่างยั่งยืนและส่งเสริมความเข้มแข็งทางวิชาการที่สามารถสร้างเครือข่ายทั้งในระดับอาเซียนและระดับสากล พร้อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพบุคลากรด้านวิจัย โดยจะมีเวทีการนำเสนอ การอภิปราย และการบรรยายพิเศษโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ จากทุกภาคส่วนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

สำหรับงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทคประจำปี 2561 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2018 (NECTEC – ACE 2018) ในปีนี้ กำหนดจัดในวันอังคารที่ 25 กันยายน 2561 ณ ห้องบอลรูม รีเซฟชั่นฮอลล์ โซนเอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด “ประเทศไทยก้าวไกล ด้วยงานวิจัยใช้ได้จริง” โดยมีเป้าหมายเป็นเวทีเพื่อนำเสนอผลงานวิจัยพัฒนาที่มีการนำไปใช้ในภาคส่วนต่างๆ หนุนการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างก้าวกระโดด ภายใต้กรอบวิจัย 5 ประเด็นมุ่งเน้น

และภายในงานปีนี้จะมีการนำเสนอผลงานโครงการภายใต้งบโครงการพัฒนาพิเศษขนาดใหญ่ (Big Rock) จำนวน 2 โครงการ ที่ เนคเทค-สวทช. ได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานตามนโยบาย “วิทย์สร้างคน”และ”วิทย์สู่ภูมิภาค”

โครงการที่หนึ่ง ได้แก่ โครงการสื่อการสอนโปรแกรมมิ่งในโรงเรียน (Coding at School Powered by KidBright) ทีมนักวิจัยเนคเทคจัดทำบอร์ดสมองกลฝังตัว KidBright จำนวน 200,000 ชุด แจกจ่ายให้โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในสังกัดของรัฐ ประมาณ 1,000 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนากำลังคนด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในโรงเรียน และยกระดับความสามารถของเด็กไทยสู่ความเป็นเลิศในระดับภูมิภาคและระดับสากล และตามนโยบาย “วิทย์สร้างคน”และ“วิทย์เสริมแกร่ง”

โครงการที่สอง ได้แก่ โครงการขยายผลงานวิจัย DentiiScan เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทย อีกหนึ่งผลงานของทีมวิจัยเนคเทค ในการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางทันตกรรมได้แก่ เครื่อง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติทางทันตกรรม (DentiiScan), ซอฟต์แวร์ช่วยวางแผนการผ่าตัดรากฟันเทียม (DentiPlan), การออกแบบและผลิตครอบฟันเซรามิกส์ โดยทำการติดตั้งเครื่อง DentiiScan ในโรงพยาบาลภาครัฐ จำนวน 50 แห่ง เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทางทันตกรรมในระดับประเทศด้วยนวัตกรรมไทย และเป็นฐานในการสร้างอุตสาหกรรมการบริการทางการแพทย์ที่เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลทางทันตกรรมในระดับประเทศ นอกจากนี้ เนคเทค-สวทช. จะถ่ายทอดองค์ความรู้จากผลงานวิจัยของเนคเทค และผลงานที่ร่วมกับพันธมิตร มานำเสนอในรูปแบบการสัมมนาวิชาการ และการจัดนิทรรศการ


การจัดสัมมนาวิชาการ

NECTEC-ACE 2018 มุ่งเน้นการนำเสนอทั้งแนวโน้มเทคโนโลยี ที่อาจมีทั้งผลกระทบและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ในระยะเวลาอันใกล้ รวมถึงการนำเสนอแนวทางผลักดันผลงานวิจัยพร้อมใช้ได้จริงของเนคเทคและเครือข่ายพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ด้านต่างๆ อาทิ “วิทย์แก้จน” “วิทย์สร้างคน” “วิทย์เสริมแกร่ง” หรือ “วิทย์สู่ภูมิภาค” เป็นต้น ทั้งนี้มีหัวข้อสัมมนาน่าสนใจดังนี้

  • ประเทศไทยก้าวไกล ด้วย AI เทคโนโลยี: วิทย์สร้างคนและวิทย์เสริมแกร่ง ว่าด้วยทิศทางแนวโน้มงานวิจัยที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โอกาสของการนำไปใช้งาน รวมถึงผลงานวิจัยของเนคเทคที่เกี่ยวข้อง
  • Cybersecurity & Disruptive Technologies ประเทศไทยจะก้าวไปอย่างไร: วิทย์เสริมแกร่ง ด้วยการเตรียมความพร้อมด้านความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วดังกล่าว
  • Kid Bright: Coding at School Project: วิทย์สร้างคนและวิทย์เสริมแกร่ง งานวิจัยไทยสู่การใช้จริงในโรงเรียนกว่า 200 โรงเรียน เพื่อเสริมแกร่งแก่เยาวชน และสร้างเครือข่าย Maker ไทยให้ยั่งยืน
  • Anurak ระบบบริหารจัดการข้อมูลพิพิธภัณฑ์: วิทย์สู่ภูมิภาค จากงานวิจัยสู่คลังข้อมูลวัฒนธรรมดิจิทัลทั่วประเทศไทย
  • อุตสาหกรรมไทยกับมาตรฐานสากลด้านเครื่องมือแพทย์และนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตในสังคมสูงวัย : การนำเสนอทิศทางมาตรฐานอันจำเป็นสำหรับเครื่องมือแพทย์ และนวัตกรรมเพื่อผู้สูงวัย ตอบโจทย์การเปลี่ยนงานวิจัยไปสู่การใช้ได้จริงในระยะอันใกล้

นอกจากนั้น ตลอดงานยังมีการสัมมนาที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “เครือข่าย IoT Academic Network” “Advanced Materials for Sensing and Energy Storage” “เทคโนโลยีเซนเซอร์ตอบโจทย์ใช้จริงในประเทศไทย” เป็นต้น โดยการสัมมนาทั้งหมด ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับฟังความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึง ภาครัฐ ภาคธุรกิจ Start-Up บริษัท Maker ต่างๆ อีกด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


การจัดนิทรรศการ

NECTEC-ACE 2018 นำเสนอผลงานของเนคเทคที่สามารถตอบสนองความต้องการของภาคส่วนต่างๆ ด้วยงานวิจัยที่สามารถใช้ได้จริง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย วิทย์ของภาครัฐ ได้แก่ วิทย์แก้จน วิทย์สร้างคน วิทย์เสริมแกร่ง และวิทย์สู่ภูมิภาค โดยมีผลงานที่น่าสนใจ อาทิ

  • วิทย์แก้จน
    Thai Poverty Map and Analytics Platform: TPMAP ระบบ BigData สำหรับชี้เป้าผู้ที่มีรายได้น้อยเพื่อการกำหนดนโยบายการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
  • วิทย์สร้างคน
    KidBright บอร์ดสมองกลฝังตัวที่ส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้กระบวนการคิดอย่างมีระบบ มิวอาย (New Version): กล้องจุลทรรศน์บนมือถือสั่งงานด้วยบอร์ด KidBright หรือคอมพิวเตอร์ ผลงานเยาวชนจากโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่ สนับสนุนการเรียนรู้ของเยาวชนให้ต่อยอดพัฒนาโปรแกรมซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์สู่การใช้งานจริง
  • วิทย์เสริมแกร่ง
    นำเสนอผลงานที่มีความพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ภาคธุรกิจ เช่น GASSET: เซนเซอร์ตรวจจับแก๊สชนิดฟิล์มบางสารกึ่งตัวนำโลหะออกไซด์ซึ่งมีความไวสูงและใช้พลังงานต่ำ ABDUL Platform: โปรแกรมแชตบอต อยู่ไหน (UNAI): ระบบระบุตำแหน่งภายในอาคารด้วยเทคโนโลยีบลูทูธ Open-D (Open Data Service Platform): แพลตฟอร์มให้บริการข้อมูลแบบเปิด uRTU: หน่วยตรวจวัดระยะไกลยูนิเวอร์แซล DIGEST: ระบบวินิจฉัยและให้คำแนะนำการสร้างกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อยกระดับการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมขนาดเล็กตามมาตรฐาน ISO/IEC 29110 และผลงานที่ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ภาคธุรกิจ เช่น NETPIE: แพลตฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างสรรพสิ่ง Aquatic Control: ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์สัตว์น้ำ DSM eMeeting Cloud Service, Digital Dentistry Platform และ โปรแกรมคอมพิวเตอร์อ่านไทย เป็นต้น
  • วิทย์สู่ภูมิภาค
    นำเสนอผลงานที่เนคเทคได้พัฒนาขึ้นจนเป็นผลสำเร็จและสามารถส่งต่อเทคโนโลยีสู่ภูมิภาคต่างๆ ได้เป็นผลสำเร็จ อาทิ ผลงานในกลุ่ม Smart City, Lidar Mapping (Li-Ma): ระบบสร้างแผนที่ 3 มิติที่มีพิกัดทางภูมิศาสตร์โดยใช้แสงเลเซอร์ความละเอียดสูง รักษ์น้ำ: ระบบพยากรณ์และจำลองเหตุการณ์เพื่อการบริหารจัดการปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็ม เป็นต้น

ซึ่งผลงานต่างๆ ที่นำเสนอนั้น ล้วนเป็นผลงานที่ใช้งานได้จริง และสามารถตอบโจทย์ทั้งในมิติของผู้ประกอบการที่ต้องการนำเทคโนโลยีไปต่อยอดธุรกิจ ตลอดจนผู้บริโภคปลายทางได้อย่างดี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

]]>